ตำนานลิเวอร์พูลเปิดประเด็นเดือดชาติพันธุ์ชาก้า

https://www.buaksib.com/wp-content/uploads/2017/10/Henchoz.png

สเตฟาน อองโชซ์ อดีตกองหลังจอมแกร่ง เปิดประเด็นร้อนเมื่อไม่เห็นด้วยที่ สวิตเซอร์แลนด์ เลือก กรานิต ชาก้า ทำหน้าที่สวมปลอกแขนกัปตันทีม โดยเหตุผลนักเตะ อาร์เซน่อล ไม่ได้มีเชื้อสายสวิสแม้แต่น้อย ในขณะที่มีดาวเตะเลือดสวิสแท้ๆ ตั้งหลายคนในทีมที่โดนมองข้าม

สเตฟาน อองโชซ์ ตำนานกองหลัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รับไม่ได้เมื่อได้ทราบข่าวว่า กรานิต ชาก้า กองกลางพันธุ์โหดจากสโมสร "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ได้รับแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ โดยให้เหตุผลนักเตะคนนี้เป็นชาวแอลแบเนีย ไม่ใช่คนสวิส

ชาก้า มีโอกาสได้รับใช้ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์มาแล้ว 66 แมตช์ ซัดไป 10 ประตู และยังถือเป็นหนึ่งในนักเตะทรงอิทธิพลของทัพ "นาฬิกา" ด้วย อย่างไรก็ตาม อองโชซ์ ไม่พอใจกับการเลือก ดาวเตะอาร์เซน่อล ซึ่งมาจากครอบครัวเชื้อสายแอลเบเนีย-โคซาโว ทำหน้าที่เป็นผู้นำทีมชาติ

อองโชซ์ เปิดใจกับ "บลิค" หนังสือพิมพ์รายวันฉบับภาษาสวิส-เยอรมันว่า "เขาได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอกับ อาร์เซน่อล แต่ผมคิดว่าในตำแหน่งกัปตันทีมมันต้องเป็นตัวแทนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และทุกๆ คนในทีม ชาก้า ไม่ควรได้รับตำแหน่งนี้"

ขณะเดียวกันสื่อได้ถามต่อไปว่ารู้สึกยังไงที่ สวิตเซอร์แลนด์ มี วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช ซึ่งเกิดในซาราเยโว ทำหน้าที่กุมบังเหียนทีมชาติ และ ชาก้า ได้เป็นกัปตันทีม โดย อองโชซ์ เผยว่า "นี่ล่ะปัญหาที่แท้จริง นักเตะอย่าง (ยานน์) ซอมเมอร์, (สเตฟาน) ลิชท์สไตเนอร์ หรือ (ฟาเบียน) ชาร์ ซึ่งเป็นตัวแทนทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์แท้ๆ คงรู้สึกเหมือนแปลกแยก"

"ก็เหมือนแฟนบอลที่อาจจะไม่รู้สึกมีส่วนร่วมกับทีมชาติ นักเตะชาวสวิสที่ไม่ได้มีภูมิหลังมาจากการเป็นชาวอพยพ และบรรดาแฟนบอลชาวสวิส พวกเขาคงรู้สึกกลายเป็นพวกที่ไม่มีความสำคัญ" ตำนานกองหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวทิ้งท้าย 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.siamsport.co.th

แฟนอาร์เซน่อลลุ้นได้ตูเร่หลังเตรียมซบทีมลอนดอน แจกเครดิตฟรีวันเกิด

http://cdn.images.dailystar.co.uk/dynamic/58/photos/389000/620x/Yaya-Toure-654172.jpg

ข่าว ยาย่า ตูเร่ เตรียมซบสโมสรในลอนดอน สร้างความตื่นเต้นให้กับกองเชียร์ อาร์เซน่อล โดยบางรายบอกจะรีบไปซื้อเสื้อปักชื่อแข้งไอวอรี่โคสต์ทันที หากเซ็นสัญญากับ "ปืนใหญ่"

แฟนบอล อาร์เซน่อล ตั้งความหวังว่า ทีมรักจะคว้าตัว ยาย่า ตูเร่ กองกลางประสบการณ์สูง มาเข้าถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หลังจากที่ ดิมิทรี เซลุค เอเยนต์นักเตะเปิดเผยเองว่าดาวเตะไอวอรี่โคสต์ ผ่านการตรวจร่างกายกับสโมสรในกรุงลอนดอนเป็นที่เรียบร้อย

ตูเร่ วัย 35 ปี กลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ นับตั้งแต่ที่บอกลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจบฤดูกาล 2017/18 ก่อนที่ เซลุค จะเผยผ่าน ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตว่า "ยาย่า ตูเร่ ผ่านการตรวจร่างกายในกรุงลอนดอนแล้ว ยาย่า ใกล้ที่จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่เต็มที"

ในเวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ตูเร่ จะเซ็นสัญญากับทีมไหน โดยบริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายในแดนผู้ดียกให้ ฟูแล่ม เป็นเต็งหนึ่ง แต่แฟนบอล อาร์เซน่อล ก็ยังหวังได้มาร่วมทีม แจกเครดิตฟรีวันเกิด

กองเชียร์ "ปืนใหญ่" รายหนึ่งเผยว่า "ยาย่า ตูเร่ กำลังจะมา อาร์เซน่อล คว้าตัวเขาเลย" ขณะที่อีกรายบอกว่า "หากเป็นผม ผมจะดึง ยาย่า มาอยู่กับ อาร์เซน่อล เพราะประสบการณ์เหลือเฟือ และยังจะช่วยพัฒนาฝีเท้าให้กับ กรานิต ชาคา ด้วย"

ด้าน แฟนบอลอีกราย เผยว่า "ถ้า ยาย่า ตูเร่ เซ็นสัญญากับ อาร์เซน่อล ผมจะเป็นคนแรกที่ไปเข้าแถวซื้อเสื้อโดยมีชื่อของเขาปักอยู่ข้างหลัง"

ประวัติของ Phil Jones

นับตั้งแต่ที่ ฟิล โจนส์ ได้เปิดตัวในพรีเมียร์ ลีก นัดแรกในการลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในเดือนมีนาคม 2010 ทุกคนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นนักเตะอายุน้อยคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก

ฟิล โจนส์ ร่วมเล่นกับทีมเยาวชนของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ตั้งแต่ปี 2002 และเขาก็เติบโตขึ้น และได้ร่วมเล่นในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2009/10 ด้วยอายุเพียง 18 ปี เขาเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับทีมกุหลาบไฟเป็นระยะเวลา 2 ปี และได้สวมเสื้อหมายเลข 28 เขาลงเล่นนัดแรกให้ทีมในเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่ทีมพบกับน๊อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในวันที่ 22 กันยายน 2009 แต่เกมที่ทำให้เขาแจ้งเกิดก็น่าจะเป็นเกมแรกในพรีเมียร์ ลีก ของเขาที่แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส พบกับ เชลซี ในเดือนมีนาคม 2010 ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และมีส่วนช่วยให้ทีมเก็บ 1 แต้มจากเชลซี ไว้ได้ด้วยการเสมอกันไป 1 - 1 และเกมนี้ก็ทำให้หลายๆ คนเปรียบเทียบเขากับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมสิงโตน้ำเงินคราม ในฐานะกองหลังตัวตัดเกมที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน

http://news.images.itv.com/image/file/1378038/stream_img.jpg

ในฤดูกาล 2010/11 เขาได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และแม้ว่าเขาจะได้ลงเล่นในเกมที่แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส พ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 7 - 1 แต่ในเกมนี้เขาก็โชว์ฟอร์มได้ดี แต่แล้วในเดือนธันวาคม เขาก็ต้องประสบกับอาการบาดเจ็บหัวเข่าต้องพักกว่า 3 เดือน และก็กลับมาลงเล่นได้ในเดือนมีนาคม 2011 และจากนั้นในช่วงท้ายฤดูกาล 2010/11 ก็มีข่าวหนาหูว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจคว้าตัวมาร่วมทีม และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ยอมรับว่าสนใจฟิล โจนส์ ตั้งแต่นัดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ได้ 7 - 1 และในที่สุดในวันที่ 13 มิถุนายน 2011 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ออกมายืนยันว่าได้คว้าตัวฟิล โจนส์ มาร่วมทีมแล้วด้วยสัญญา 5 ปี

ในวันที่โจนส์ เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีม เวย์น รูนี่ย์ ก็ออกมายอมรับว่า ฟิล โจนส์ เป็นเซ็นเตอร์ แบ็คที่ทำให้ศูนย์หน้าต้องทำงานหนักที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ ลีก และเห็นได้ชัดว่าโจนส์ เป็นนักฟุตบอลคนหนึ่งที่หลงใหลในศิลปะแห่งการป้องกันภายใต้ความกดดัน

โดยก่อนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ตัวเขามาร่วมทีม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องต่อสู้แย่งชิงกับทีมใหญ่หลายๆ ทีมไม่ว่าจะเป็นลิเวอร์พูล หรืออาร์เซน่อล ที่มีรายงานว่าให้ความสนใจกองหลังทีมชาติอังกฤษดาวรุ่งผู้นี้ แต่โจนส์ ก็ตัดสินใจเลือกที่จะมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หลังเซ็นสัญญาร่วมทีม โจนส์ก็ได้ร่วมเดินทางทัวร์อเมริกากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และได้ลงเล่นในเกมที่ทีมเอาชนะชิคาโก้ ไฟร์ 3 - 1 ส่วนการลงเล่นให้ทีมปีศาจแดงอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในเดือนสิงหาคม 2011 โดยเขาลงเล่นแทน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ในครึ่งหลัง และมีส่วนช่วยให้ทีมพลิกกลับมาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 3 - 2 หลังจากที่ถูกนำไปก่อน 0 - 2 ในครึ่งแรก

โจนส์ ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เต็มเกมนัดแรกในวันที่ 22 สิงหาคม 2011 ในเกมทีมพบกับสเปอร์ส และเอาชนะมาได้ 3 - 0

https://cdn.images.express.co.uk/img/dynamic/67/590x/Phil-Jones-835256.jpg

สำหรับเกมกับทีมชาติเขามีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่ปี 2009 ในชุดอายุไม่เกิน 19 ปี จากนั้น ก็มีชื่อติดทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนอื่นๆ เช่น คริส สมอลลิ่ง นอกจากนี้ เขายังได้รับเลือกเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ โดย สจ๊วต เพียร์ช ผู้จัดการทีม

ในเดือนสิงหาคม 2011 โจนส์ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เพื่อลงเตะนัดกระชับมิตรกับเนเธอร์แลนด์ จากการคุมทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล แต่เกมนี้ต้องถูกยกเลิกไปหลังเกิดเหตุการณ์จราจลในลอนดอน จากนั้นในวันที่ 7 ตุลาคม 2011 เขาก็ได้ลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่นัดแรกในเกมที่อังกฤษไปเยือนมอนเตเนโกร ในศึกยูโร 2012 รอบคัดเลือก หลังเกมคาเปลโล ก็ออกมากล่าวยกย่องฟอร์มการเล่นของเขา และบอกว่า "โจนส์เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์"

แม้จะถูกเปรียบกับจอห์น เทอร์รี่ แต่โจนส์ก็มีฟอร์มการเล่นที่เป็นตัวของตัวเองและสามารถปรับตัวได้ดีในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สไตล์การเติมเกมรุกที่ดุดัน และการเล่นเกมรับที่แข็งแกร่งของเขานั่นแสดงให้เห็นว่าเขามีคุณสมบัติที่ดีเพียงพอที่จะเป็นนักเตะคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประวัติของ ธีรศิลป์ แดงดา

ธีรศิลป์ แดงดา ชื่อเล่น มุ้ย เกิดวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2531 เป็นนักเตะระดับ กองหน้าทีมชาติไทย เคยลงเล่นกับทีมเอสซีจีเมืองทอง และเคยเล่น ให้กับ อัลเมเรีย ในศึกลาลีก่าของสเปน ปัจจุบันเล่นให้กับ ซานเฟสเซ ฮิโรชิม่า ใน สัญญายืมตัวจาก เอสซีจีเมืองทอง

http://static.goal.com/di/33DE6621F74339952AE0DBD2275DD7A7.jpg

ธีรศิลป์ แดงดา เกิดที่กรุงเทพมหานคร มีบิดาชื่อ พ.อ.อ.ประสิทธิ์ แดงดา กับมารดาชื่อกาญจนา ซึ่งเป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ และธีรศิลป์มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อธนีกาญจน์ แดงดา ซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ทั้งนี้ ธีรศิลป์สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี โดยเขาได้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลเยาวชนของโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรีด้วย ซึ่งได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมรุ่นและผู้ฝึกสอนของโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรีว่าเป็นนักฟุตบอลที่เก่งและสามารถเคลื่อนไหวไปกับลูกบอลได้อย่างรวดเร็ว

ธีรศิลป์ แดงดา เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลโรงเรียนจ่าอากาศ ใน ไทยลีกดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2547/48 ในช่วงวัยแค่ 17 ปี ซึ่งเขาไม่ค่อยมีโอกาสลงเล่นมากนัก แต่ก็สามารถทำประตูได้ 3 ประตูจากการลงเล่นแค่ 6 นัด ซึ่งในขณะนั้นยังเล่นในตำแหน่ง กองกลางตัวรุก

http://s.isanook.com/sp/0/ud/138/692569/mui.jpg

ปีพ.ศ. 2549 ธีรศิลป์ย้ายไปเล่นให้กับราชประชา เอฟซี ในฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ข และตกรอบแบ่งกลุ่ม โดยธีรศิลป์ได้ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้ามากขึ้น และสามารถทำประตูได้ถึง 9 ประตู จากการลงเล่น 18 นัด รวมทั้งจ่ายให้เพื่อนทำประตูถึง 5 ครั้ง

ฤดูกาล 2550 ธีรศิลป์ ถูกยืมตัวมาเล่นให้กับโรงเรียนจ่าอากาศอีกครั้งในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก

จากนั้นช่วงครึ่งฤดูกาล (เลก 2) ธีรศิลป์ได้ย้ายลงมาเล่นให้สโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ดในไทยลีกดิวิชั่น 2 ปี พ.ศ. 2550และเป็นนักฟุตบอลที่มีส่วนในการนำเมืองทองเป็นแชมป์ไทยลีกดิวิชั่น 2 ซึ่งผู้จัดการทีมของเมืองทองในขณะนั้นคือ โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ได้กล่าวเอ่ยชมว่า "ธีรศิลป์เริ่มมีทักษะและการเล่นที่ดีมากขึ้นจนมีหลายทีมทั้งในประเทศและนอกประเทศสนใจอยากได้ธีรศิลป์ได้ร่วมทีม ซึ่งตัวผมและสตาฟโค้ชทุกคนยังเชื่อมั่นได้เลยว่าเด็กคนนี้มีอนาคตที่สดใสแน่นอน" ซึ่งในฤดูกาลนี้ธีรศิลป์ได้ลงเล่น 15 นัด ทำประตูได้ 7 ประตู จ่ายให้เพื่อนทำประตูได้ 2 ครั้ง

https://i.ytimg.com/vi/_lxm0MSPk7E/maxresdefault.jpg

รู้ได้อย่างไรว่าจะต้องประคบร้อนหรือเย็น?

การประคบร้อนหรือเย็นเป็นวิธีหนึ่งในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อบรรเทาอาการปวดหรืออักเสบ ทั้งอาการปวดที่เกิดจากการเจ็บป่วย มีไข้ หรือการได้รับบาดเจ็บระหว่างเล่นกีฬา วิ่งเล่น ซึ่งอาจมีได้ตั้งแต่ การหกล้ม ศีรษะกระแทกจากการปะทะ การบาดเจ็บ ฟกช้ำของส่วนต่างๆของร่างกาย
        การจะเลือกใช้ความร้อนหรือเย็นนั้นมีข้อที่ต้องพิจารณาเบื้องต้น คือ ถ้าเกิดการบาดเจ็บเฉียบพลันร่วมกับมีการบวม ควรเลือกใช้ความเย็น เพราะความเย็นจะทำให้เส้นเลือดหดตัว ทำให้เลือดออกน้อยลงและช่วยลดบวมได้ แต่ถ้าเป็นการปวดแบบเป็นๆหายๆ มีอาการมานานหรือเรื้อรัง หรือปวดร่วมกับมีอาการตึงกล้ามเนื้อ ควรใช้ความร้อน เพราะความร้อนจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว การไหลเวียนเลือดดีขึ้นจึงลดอาการปวดและตึงกล้ามเนื้อได้

f:id:yumyumjumbo02:20180618161205j:plain


 
ประคบเย็น เมื่อ...
        หากมีอาการปวดหรือได้รับบาดเจ็บควรประคบด้วยน้ำแข็งหรือน้ำเย็นทันที (ภายใน 24-48 ชั่วโมง) ประคบนาน 20-30 นาที วันละ 2-3 ครั้ง อาการที่ควรประคบเย็น เช่น ปวดศีรษะ มีไข้สูง ปวดฟัน ปวดบวมข้อเท้า ข้อเคล็ด เลือดกำเดาไหล หรือ ปวดบวมบริเวณอื่นๆ ที่เกิดจากการได้รับบาดเจ็บหรือเพิ่งมีอาการใหม่ๆ
        อาจใช้เจลสำหรับประคบร้อนเย็นแบบสำเร็จรูปหรือทำถุงน้ำแข็งขึ้นใช้เอง โดยการใช้ถุงพลาสติกขนาดพอเหมาะแล้วเติมน้ำเปล่าผสมน้ำแข็งอย่างละครึ่งลงไปในถุง ตรวจสอบว่าไม่เย็นเกินไปโดยการนำมาประคบผิวหนัง ถ้าบริเวณที่มีอาการเป็นบริเวณมือ แขน ขา หรือเท้า อาจใช้การแช่ในภาชนะที่บรรจุน้ำเย็นแทน โดยแช่นานประมาณ 15-20 นาที
 

https://yumyumjumbo03.myblog.it/


         การประคบร้อนจะเริ่มใช้หลังจากมีอาการผ่านไปแล้ว 48 ชั่วโมง ให้ประคบครั้งละ 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดอาการปวดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ อาการที่ควรประคบร้อน เช่น ปวดตึงของกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า หลัง น่อง ปวดประจำเดือน อาจใช้เจลสำหรับประคบร้อนเย็นแบบสำเร็จรูป ใช้กระเป๋าน้ำร้อน หรืออาจใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 45 องศาเซลเซียส สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือ ไม่ควรประคบด้วยความร้อนที่มากเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกแสบร้อนบริเวณที่ประคบ ไม่ควรประคบนานหรือถี่เกินไป และต้องไม่ประคบร้อนในบริเวณที่มีบาดแผลเปิดหรือมีเลือดออก เพราะจะยิ่งทำให้มีการอักเสบเพิ่มมากขึ้น จะประคบร้อนได้ก็ต่อเมื่อการอักเสบน้อยลงแล้ว ซึ่งสังเกตได้จากไม่มีอาการบวม แดง ร้อน